วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ตั๋วเงิน

การบัญชีเกี่ยวกับตั๋วเงิน

การชำระหนี้ด้วยตั๋วเงิน
           ประเทศไทยมีประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เกี่ยวกับตั๋วเงินมาตรา 898 ถึงมาตรา 1011  ออกบังคับใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2472  สำหรับในภาคพื้นยุโรป  การชำระหนี้ด้วยตั๋วเงินมีขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 12  จากความคิดริเริ่มของพ่อค้าชาวยิวเพื่อความสะดวกในการโอนหนี้ที่ต้องชำระจากท้องถิ่นหนึ่งไปยังอีกท้องถิ่นหนึ่ง  เพื่อให้พ่อค้าไม่ต้องพกเงินสดเป็นจำนวนมากไปชำระค่าสินค้าแก่ผู้ขาย  และรับเงินสดจำนวนมากจากการขายสินค้าจากผู้ซื้อ

วิธีการชำระหนี้ด้วยตั๋วเงิน
              กรณีลูกหนี้ชำระหนี้ด้วยตั๋วสัญญาใช้เงิน  ลูกหนี้จะเป็นผู้ออกตั๋วและเป็นผู้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะชำระเงินตามตั๋วเมื่อตั๋วครบกำหนด  และจะระบุชื่อเจ้าหนี้เป็นผู้รับเงิน  กรณีชำระหนี้ด้วยตั๋วแลกเงินเจ้าหนี้จะเป็นผู้ออกตั๋วและเป็นผู้สั่งจ่าย  โดยสั่งผู้จ่ายซึ่งเป็นลูกหนี้จ่ายเงินให้แก่ผู้รับเงิน ตั๋วแลกเงินนี้กฎหมายกำหนดให้ต้องมี การรับรองตั๋วโดยให้ผู้จ่ายลงลายมือชื่อในตั๋วแลกเงิน  เพื่อเป็นการรับรองว่าผู้จ่ายจะใช้เงินให้เมื่อตั๋วถึงกำหนด  ในปัจจุบันตั๋วแลกเงินที่มีธนาคารพาณิชย์เป็นผู้รับรองตั๋ว  จะเป็นตราสารการเครดิตที่บุคคลโดยทั่วไปให้ความเชื่อถือ  การรับรองของธนาคารกระทำโดยเขียนลงด้านหน้าตั๋วว่า รับรองแล้วหรือข้อความอย่างอื่นในทำนองเดียวกัน  และลงลายมือชื่อผู้มีอำนาจลงนามของธนาคาร เมื่อธนาคารพาณิชย์รับรองตั๋วแลกเงินแล้วย่อมผูกพันและต้องรับผิดอย่างลูกหนี้ชั้นต้น











การบันทึกบัญชีทางด้านผู้จ่ายเงิน
          วันที่ผู้จ่ายเงินออกตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือรับรองตั๋วแลกเงิน  ผู้จ่ายเงินจะบันทึกบัญชีตั๋วเงินจ่ายทางด้านเครดิตตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในตั๋วเท่านั้น  จะยังไม่มีการคิดดอกเบี้ยตั๋วเงิน  แม้จะเป็นตั๋วเงินชนิดมีดอกเบี้ยก็ตาม  เพราะในวันออกตั๋วหรือรับรองตั๋ว  ดอกเบี้ยจ่ายยังไม่เกิดขึ้น
           การออกตั๋วเงินจ่ายชำระหนี้ในกรณีดังต่อไปนี้
1.  เมื่อซื้อสินค้า
1.1  เมื่อชำระหนี้ให้เจ้าหนี้
1.2  กรณีที่กิจการซื้อสินค้าและชำระหนี้ให้เจ้าหนี้เป็นตั๋วเงิน
1.3  กรณีเป็นผู้ประกอบกิจการที่ไม่ได้จดทะเบียนเข้าระบบภาษีมูลค่า
เพิ่ม 7% เมื่อซื้อสินค้า 50,000 บาท  จากกิจการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%  โดยถูกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และจ่ายชำระหนี้เป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน  จะบันทึกบัญชีโดยรวมภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ในบัญชี  ทั้งนี้เพราะกิจการไม่มีสิทธิเดบิตภาษีซื้อ  เนื่องจากไม่อาจขอคืนได้
1.4  กรณีเป็นผู้ประกอบกิจการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ   
เมื่อซื้อสินค้า 50,000 บาท  จากกิจการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%  เมื่อถูกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%  และจ่ายชำระหนี้โดยรับรองตั๋วแลกเงินให้เจ้าหนี้
2.  เมื่อซื้อสินทรัพย์
2.1  กรณีเป็นผู้ประกอบกิจการที่ไม่ได้จดทะเบียนเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
ในอัตรา 7%  เมื่อซื้อเครื่องจักร 100,000 บาท  และได้รับใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบจาก  ผู้ขาย   กิจการไม่สามารถนำภาษีซื้อที่เกิดขึ้นจากการซื้อสินทรัพย์มาบันทึกบัญชีเพื่อนำมาหักภาษีขายในเดือนนั้นๆ
                     2.2  กรณีเป็นผู้ประกอบกิจการที่จดทะเบียนเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มใน
อัตรา 7%  ซื้อเครื่องจักร 100,000 บาท  และได้รับใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบจากผู้ขาย  กิจการสามารถนำภาษีซื้อที่เกิดขึ้นจากการซื้อสินทรัพย์มาบันทึกเพื่อนำมาหักภาษีขายในเดือนนั้น
2.3  กรณีถูกเก็บภาษีซื้อจากรถยนต์นั่งและรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน
10  คน  รวมทั้งภาษีซื้อสำหรับสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ดังกล่าวถูกยกเว้นไม่ให้นำมาเดบิตภาษีซื้อ
การบันทึกบัญชีเมื่อจ่ายเงินตามตั๋ว
           ในวันครบกำหนดชำระหนี้ตามตั๋วเงิน  ผู้รับเงินจะยื่นตั๋วเพื่อเรียกเก็บเงินจากผู้จ่ายเงิน  ผู้จ่ายเงินจะต้องชำระเงินให้ครบถ้วนตามตั๋วเงิน ดังนี้
1)  กรณีตั๋วเงินไม่มีดอกเบี้ย  ผู้จ่ายเงินจะชำระเงินเท่ากับจำนวนเงินในตั๋วเงิน
2)  กรณีตั๋วเงินมีดอกเบี้ยจะชำระเงินตามจำนวนเงินในตั๋วและดอกเบี้ยตั๋วเมื่อวันครบ
การบันทึกบัญชีทางด้านผู้รับเงิน
          ตั๋วเงินรับ  หมายถึง  คำมั่นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรโดยปราศจากเงื่อน-ไขที่บุคคลนั้นรับจะชำระเงินจำนวนหนึ่งที่แน่นอนให้แก่อีกบุคคลหนึ่งภายในเวลาที่กำหนด
           ตั๋วเงินรับมีลักษณะเหมือนบัญชีลูกหนี้  แต่เป็นลูกหนี้ที่มีหลักประกัน คือ มีลักษณะเป็นสัญญาผูกพันกำหนดทั้งจำนวนเงินและเวลาที่จะได้รับชำระเงิน
             การบันทึกบัญชีเมื่อได้รับตั๋วสัญญาใช้เงินหรือตั๋วแลกเงินที่ลูกหนี้รับรอง
        เมื่อได้รับตั๋วสัญญาใช้เงินหรือตั๋วแลกเงินที่ลูกหนี้รับรองแล้ว   จะบันทึกบัญชีโดยเดบิตตั๋วเงินรับด้วยจำนวนเงินที่ระบุไว้ในตั๋ว  ไม่มีการคำนวณดอกเบี้ยไม่ว่าจะเป็นตั๋วมีดอกเบี้ยหรือไม่ก็ตาม  กรณีตั๋วมีดอกเบี้ยจะบันทึกดอกเบี้ยในวันตั๋วครบกำหนดเท่านั้น
กิจการได้รับตั๋วเงินรับในกรณีต่างๆ ดังนี้
1.  เมื่อขายสินค้า
1.1  หากกิจการขายสินค้าและได้รับชำระหนี้เป็นตั๋วแลกเงิน
1.2  กรณีเป็นผู้ประกอบกิจการที่ไม่ได้จดทะเบียนเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
ในอัตราร้อยละ เมื่อขายสินค้าไม่มีสิทธิเก็บภาษีขายจากลูกค้าเหมือนกับตอนซื้อ  ไม่มีสิทธิบันทึกเดบิตภาษีซื้อเพื่อขอคืนจากรัฐ
1.3  กรณีเป็นผู้ประกอบกิจการที่จดทะเบียนเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มใน
อัตราร้อยละ เมื่อขายสินค้าต้องออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบและเก็บภาษีขายจากลูกค้าเพื่อนำส่งรัฐ  ในวันสิ้นเดือนจะนำภาษีซื้อและภาษีขายมาหักกลบลบกัน  ถ้าผลต่างเป็นภาษีซื้อจะขอคืนจากรัฐ  ถ้าเป็นภาษีขายต้องนำส่งรัฐต่อไป


2.  เมื่อขายสินทรัพย์
2.1  กรณีกิจการไม่ได้จดทะเบียนเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ
การขายสินทรัพย์จะไม่มีภาษีมูลค่าเพิ่มเข้ามาเกี่ยวข้อง
2.2  กรณีกิจการจดทะเบียนเพื่อเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ การ
ขายสินทรัพย์จะมีภาษีมูลค่าเพิ่ม
3.  เมื่อรับชำระหนี้
การบันทึกบัญชีทางด้านผู้สั่งจ่าย
ในวันที่ผู้สั่งจ่ายได้รับตั๋วแลกเงินที่ออกให้ลูกหนี้รับรองแล้ว  โดยตั๋วระบุชื่อเจ้า
หนี้ของตนเป็นผู้รับเงิน  จะยังไม่บันทึกบัญชีต่อเมื่อนำตั๋วฉบับนั้นไปชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ในวันที่เจ้าหนี้ได้รับตั๋วแลกเงิน  ผู้สั่งจ่ายจะบันทึกบัญชีเกี่ยวกับลูกหนี้และเจ้าหนี้ที่เกี่ยวข้อง  โดยไม่มีการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับตั๋วเงินในวันครบกำหนด  ถ้าผู้จ่ายเงินชำระเงินตามตั๋วให้ผู้รับเงินเรียบร้อย  ผู้สั่งจ่ายไม่ต้องบันทึกบัญชี  แต่ถ้าในวันครบกำหนด  ผู้จ่ายเงินไม่สามารถชำระเงินให้แก่ผู้รับเงิน  ตั๋วนั้นจะขาดความเชื่อถือ
การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับตั๋วแลกเงิน 3 ฝ่าย
การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับตั๋วแลกเงิน 3 ฝ่าย  ซึ่งแต่ละฝ่ายจะบันทึกตามรายการ
ที่เกี่ยวข้อง คือ
1.  ทางด้านผู้สั่งจ่าย  จะบันทึกบัญชีในวันที่นำตั๋วแลกเงินที่รับรองแล้วไป
ชำระหนี้ให้เจ้าหนี้   โดยถือเป็นการรับชำระหนี้และจ่ายชำระหนี้ด้วยตั๋วเงิน ในวันครบกำหนด  ผู้จ่ายเงินชำระเงินให้ผู้รับเงิน  ผู้จ่ายไม่ต้องบันทึกบัญชี
2.  ทางด้านผู้รับเงิน  จะบันทึกบัญชีในวันที่ได้รับตั๋วสัญญาใช้เงินหรือตั๋วแลก-
เงินที่ผู้จ่ายเงินรับรองแล้วในวันครบกำหนด  บันทึกการรับชำระเงินตามตั๋ว
3.  ทางด้านผู้จ่ายเงิน  บันทึกบัญชีวันที่ออกตั๋วสัญญาใช้เงินหรือรับรองตั๋ว
แลกเงินวันครบกำหนดบันทึกการจ่ายชำระเงินตามตั๋ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น